วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2559

แบบฝึกหัด บทที่ 4 เทคโนโลยีสารสนเทศ

แบบฝึกหัด บทที่ 4 เทคโนโลยีสารสนเทศ

                      แบบฝึกหัด

บทที่ 4 เทคโนโลยีสารสนเทศ                  กลุ่มที่เรียน 1
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน    รหัสวิชา 0026 008
ชื่อ นายเจษฎา สกุล ทรงวงค์เกต               รหัส 57012310057

คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้
1. ให้นิสิตยกตัวอย่างอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศตามหัวข้อต่อไปนี้ อย่างน้อยหัวข้อละ 3 ชนิด
แล้วแลกเปลี่ยนกันตรวจสอบกับเพื่อน
1) การบันทึกและจัดเก็บข้อมูล
   - CD/DVD
   - hard disk
   - Memory Stick

2) การแสดงผล
   - จอภาพ (Monitor)
   - อุปกรณ์ฉายภาพ (Projector)
   - อุปกรณ์เสียง (Audio Output)

3) การประมวลผล
   - CPU 
   - ฮาร์ดแวร์
   - ซอฟต์แวร์

4) การสื่อสารและเครือข่าย
   - โทรศัพท์มือถือ
   - วิทยุ
   - อินเตอร์เน็ต

2. ให้นิสิตนำตัวเลขหน้าคำตอบ  มาเติมหน้าข้อคำถามในด้านล่างที่มีความที่สัมพันธ์กัน

คำตอบ
1. ส่วนใหญ่ใช้ทำหน้าที่คำนวณประมวลผลข้อมูล
2. e-Revenue
3. เทคโนโลยีต่างๆ ที่นำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินการเกี่ยวกับสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความถูกต้องแม่นยำ และความรวดเร็วต่อการนำไปใช้
4. มีองค์ประกอบพื้นฐาน 3 ส่วน ได้แก่ Sender Medium และ Decoder
5. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการรับ-ส่งเอกสารจากหน่วยงานหนึ่งไปยังอีกหน่วยงานหนึ่งโดยส่งผ่านเครือข่าย
6. เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคมและเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
7. โปรแกรมที่ทำหน้าที่ใช้ควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในระบบคอมพิวเตอร์
8. โปรแกรมระบบห้องสมุดอัตโนมัติ จัดเป็นซอฟต์แวร์ประเภท
9. CAI
10. ลักษณะสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ

คำถาม 
8 ซอฟต์แวร์ประยุกต์
Information Technology
1 คอมพิวเตอร์ในยุคประมวลผลข้อมูล
6 เทคโนโลยีสารสนเทศ ประกอบด้วย
10 ช่วยเพิ่มผลผลิต เพิ่มต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
7 ซอฟต์แวร์ระบบ
การนำเสนอบทเรียนในรูปมัลติมีเดียที่ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ตามระดับความสามารถ
EDI
4 การสื่อสารโทรคมนาคม
2 บริการชำระภาษีออนไลน์

แบบฝึกหัดบทที่ 3 การรู้สารสนเทศ

แบบฝึกหัดบทที่ 3 การรู้สารสนเทศ



                        แบบฝึกหัด

บทที่ 3 การรู้สารสนเทศ                         กลุ่มที่เรียน 1
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน       รหัสวิชา 0026 008
ชื่อ นายเจษฎา สกุล ทรงวงค์เกต                      รหัส 57012310057

คำชี้แจง จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุด

1. ข้อใดเป็นความหมายที่ถูกต้องที่สุดของการรู้สารสนเทศ
ก. ความสามารถในการกลั่นกลอง และประเมินค่าสารสนเทศที่หามาได้
ข. ความสามารถในการตัดสินใจใช้สารสนเทศรูปแบบต่างๆ
ค. ความสามารถของบุคคลในการสืบค้นและพัฒนาสารสนเทศ
ง. ความสามารถของบุคคลในการเข้าถึง ประเมิน และใช้งานสารสนเทศ


2. จากกระบวนการของการรู้สารสนเทศทั้ง 5ประการ ประการไหนสำคัญที่สุด
ก. ความสามารถในการตระหนักว่าเมื่อใดจึงจะต้องการสารสนเทศ
ข. ความสามารถในการค้นหาสารสนเทศ
ค. ความสามารถในการประมวลผลสารสนเทศ
ง. ความสามารถในการใช้และการสื่อสารสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ

3. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของผู้รู้สารสนเทศ
ก. สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
ข. สามารถใช้สารสนเทศในการดำเนินชีวิต
ค. ชอบใช้คอมพิวเตอร์ในการเล่นเกมง. ใช้คอมพิวเตอร์ในการแสวงหาสารสนเทศได้

4.ข้อใดไม่ใช่ความสำคัญของการรู้สารสนเทศ
1. โลกมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก โดยเน้นวัตถุนิยมมากขึ้น2. ช่วยให้บุคคลประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิต
3. สารสนเทศมีการเพิ่มปริมาณอย่างรวดเร็ว จนยากที่จะเข้าถึง
4. ช่วยบุคคลเป็นผู้ที่มีศักยภาพในการเรียนรู้ตลอดชีวิต

5. ข้อใดเป็นการเรียงลำดับขั้นตอนของกระบวนการเรียนรู้สารสนเทศที่ถูกต้อง
     1. ความสามารถในการประมวลสารสนเทศ
     2. ความสามารถในการประเมินสารสนเทศ
     3. ความสามารถในการใช้และการสื่อสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
     4. ความสามารถในการค้นหาสารสนเทศ
     5. ความสามารถในการตระหนักว่าเมื่อใดจึงจะต้องการสารสนเทศ
ก. 1-2-3-4-5 
ข. 2-4-5-3-1 
ค. 5-4-1-2-3 
ง. 4-3-5-1-2

วันอังคารที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2559

แบบฝึกหัด บทที่ 2 บทบาทสารสนเทศกับสังคม

แบบฝึกหัด บทที่ 2 บทบาทสารสนเทศกับสังคม

                         แบบฝึกหัด

บทที่ 2 บทบาทสารสนเทศกับสังคม                 กลุ่มที่เรียน 1
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำ วัน      รหัสวิชา 0026 008
ชื่อ นายเจษฎา สกุล ทรงวงค์เกต                      รหัส 57012310057

คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้

1. ให้นิสิตหารายชื่อเว็บไซต์หรือเทคโนโลยีที่ให้บริการต่างๆ ตามหัวข้อเหล่านี้มาอย่างละ 3 รายการ
1.1 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสาขาการศึกษา
-www.library.swu.ac.th
-www.msu.ac.th
-www.kku.ac.th

1.2 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพธุรกิจ พาณิชย์ และสำนักงาน
-www.muangthai.co.th
-www.krungsri.com
-www.ktb.co.th

1.3 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพการสื่อสารมวลชน
-https://www.thairath.co.th
-https://www.dailynews.co.th
-https://www.komchadluek.net

1.4 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพทางอุตสาหกรรม
-https://www.cpall.co.th
-https://www.toyota.co.th
-https://www.mazda.co.th

1.5 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพทางการแพทย์
-http://www.rajavithi.go.th
-http://med.mahidol.ac.th
-http://www.bangkokhospital.com

1.6 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพทหารตำรวจ
-http://www.royalthaipolice.go.th
-http://highway.police.go.th
-http://www.thailandtouristpolice.com

1.7 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพวิศวกรรม
-http://www.acat.or.th
-http://www.coe.or.th
-http://www.thaiengineering.com

1.8 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพด้านเกษตรกรรม
-http://www.thaigreenagro.com
-http://www.moac.go.th
-http://www.doae.go.th

1.9 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับคนพิการต่างๆ
-http://www.unhcr.or.th
-http://www.fwc1954.org
-http://www.tddf.or.th

2. มหาวิทยาลัยมหาสารคามเตรียมเทคโนโลยีสารสนเทศด้านการศึกษาให้กับท่าน มีอะไรบ้าง บอกมาอย่างน้อย 3 อย่าง
-http://library.msu.ac.th/eng
-https://reg.msu.ac.th
-https://msu.ac.th

3. ข้อ 2 จงวิเคราะห์ว่าท่านจะเอาเทคโนโลยีเหล่านั้น มาทำให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองอย่างไรบ้าง
-สามารถดูข่าวสารได้ที่ www.thairath.co.th
-สามารถดูว่ามีเงื่อนไขใดที่เราสนใจจะเปิดบัญชีกับธนาคาร www.ktb.co.th
-สามารถค้นหารายวิชาและจัดแบบแผ่นการเรียนล่วงหน้าได้ www.reg.msu.ac.th

แบบฝึกหัดบทที่1 การจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน

แบบฝึกหัด


บทที่ 1 (กิจกรรม1)                                                                                     กลุ่มที่เรียน 1
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                       รหัสวิชา 0026 008
ชื่อ นายเจษฎา สกุล ทรงวงค์เกต                                                                     รหัส 57012310057

จงเติมในช่องว่างว่าข้อใดเป็นข้อมูล หรือสารสนเทศ
1. ข้อมูลหมายถึง ข้อมูลเป็นกลุ่มของข้อความที่ไม่ได้จัดการรูปแบบ และไม่สามารถนำมาใช้งานได้จนกว่าจะมีการจัดระเบียบและดึงออกมาใช้ในรูปแบบสารสนเทศ การแสดงผลลัพธ์ อุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีในการแสดงผลลัพธ์มีมาก สามารถแสดงเป็นตัวหนังสือ เป็นรูปภาพหรือคำพูด ตลอดจนพิมพ์ออกมาที่กระดาษ การแสดงผลลัพธ์มีทั้งที่แสดงเป็นภาพ เป็นเสียง เป็นวีดิทัศน์ เป็นต้น และสามารถเก็บรักษาได้ยาวนาน

2. ข้อมูลปฐมภูมิคือ เป็นข้อมูลที่ได้มาจากการที่ผู้ใช้เป็นผู้เก็บข้อมูลโดยตรง ซึ่งอาจจะเก็บด้วยการสัมภาษณ์หรือสังเกตการณ์ เป็นข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือมากที่สุด เนื่องจากยังไม่มีการเปลี่ยนรูป และมีรายละเอียดตามที่ผู้ใช้ต้องการ แต่จะต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายมาก
ยกตัวอย่างประกอบ เช่น ข้อมูลที่ได้จากการนับจำนวนผู้เข้ามาสัมภาษณ์ของคณะนิติศาสตร์ ในเวลา 8.30-11.30 น.

3. ข้อมูลทุติยภูมิคือ เป็นข้อมูลที่ได้มาจากแหล่งข้อมูลที่มีผู้เก็บรวบรวมไว้แล้ว เป็นข้อมูลในอดีต และมักจะเป็นข้อมูลที่ได้ผ่านการวิเคราะห์เบื้องต้นมาแล้ว ผู้ใช้นำมาใช้ได้เลย จึงประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย บางครั้งข้อมูลทุติยภูมิจะไม่ตรงกับความต้องการหรือมีรายละเอียดไม่เพียงพอ นอกจากนั้นผู้ใช้จะไม่ทราบถึงข้อผิดพลาดของข้อมูล ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ที่นำมาใช้ สรุปผลการวิจัยผิดพลาดไปด้วย
ยกตัวอย่างประกอบ สถิติการเกิดของเด็กทารกใน ร.พ.มหาสารคามในปี 2540 - 2541 เป็นข้อมูลที่บางครั้งอาจถูกแปรรูปไปแล้ว แต่เนื่องจากบางครั้งเราไม่สามารถที่จะจัดเก็บข้อมูลปฐมภูมิได้เราจึงต้องศึกษาจากข้อมูลที่มีการเก็บรวบรวมไว้แล้ว

4. สารสนเทศหมายถึง เป็นผลลัพธ์ของการประมวลผล การจัดดำเนินการ และการเข้าประเภทข้อมูลโดยการรวมความรู้เข้าไปต่อผู้รับสารสนเทศนั้น สารสนเทศมีความหมายหรือแนวคิดที่กว้าง และหลากหลาย ตั้งแต่การใช้คำว่าสารสนเทศในชีวิตประจำวัน จนถึงความหมายเชิงเทคนิค ตามปกติในภาษาพูด แนวคิดของสารสนเทศใกล้เคียงกับความหมายของการสื่อสาร เงื่อนไข การควบคุม ข้อมูล รูปแบบ คำสั่งปฏิบัติการ ความรู้ ความหมาย สื่อความคิด การรับรู้ และการแทนความหมาย

5. จงอธิบายประเภทของสารสนเทศ  1. จำแนกตามแหล่งสารสนเทศ คือการจัดแบ่งตามการรวบรวมหรือจัดทำสารสนเทศ ออกเป็นแหล่งดังนี้
1.1     แหล่งปฐมภูมิ หมายถึง สารสนเทศที่ได้จากต้นแหล่งโยตรง เป็นสารสนเทศเชิงวิชาการ มีการเผยแพร่ผลการศึกษาค้นคว้า วิจัย รายงาน การค้นพบทฤษฎีใหม่ๆ เพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาเพิ่มเติม มีข้อมูลเหตุผลที่เชื่อถือได้
        1.2     แหล่งทุติยภูมิ หมายถึง สารสนเทศที่ได้รวบรวม เรียบเรียงขึ้นใหม่จากสารสนเทศปฐมภูมิ อาจทำในรูปของการสรุป ย่อเรื่อง จัดหมวดหมู่ ทำดรรชนี สาระสังเขป เพื่อให้สามารถใช้ข้อมูลได้สะดวกรวดเร็ว เข้าใจง่าย ได้แก่ สื่ออ้างอิง วารสารที่มีการสรุปย่อและตีความ รวมทั้งหนังสือตำราที่รวบรมเนื้อหาวิชาการในการเรียนการสอน รวมทั้งสารานุกรม พจนานุกรม รายงานสถิติต่างๆ ดรรชนีวารสารและสาระสังเขป เป็นต้น
        1.3     แหล่งตติยภูมิ หมายถึง สารสนเทศที่รวบรวมขึ้นเพื่อใช้ในการค้นหาสารสนเทศปฐมภูมิและทุติยภูมิ ไม่ให้ความรู้สาระเนื้อหารโดยตรง แต่ใช้ประโยชน์เพื่อการค้นหาเฉพาะสาขาวิชาต่างๆได้ ได้แก่ บรรณานุกรม นามานุกรม ปัจจุบันมีการจัดทำเป็นบันทึกข้อมูลไว้ในสื่อคอมพิวเตอร์ออกเผยแพร่ ในรูปของ CD-ROM ฐานข้อมูลออนไลน์
             2.  จำแนกตามสื่อที่จัดเก็บ คือการจำแนกสารสนเทศตามชนิดของสื่อที่ใช้ในการบันทึกข้อมูล หรือตามเทคโนโลยีที่มนุษย์คิดค้นขึ้น ได้แก่ กระดาษ วัสดุย่อส่วน สื่ออิเล็กทรอนิกส์ และสื่อแสง ได้แก่
         2.1     กระดาษ เป็นการเก็บข้อมูลสารสนเทศที่ใช้บันทึกได้ง่ายที่สุด ทั้งการขีดเขียน การพิมพ์ นิยมใช้มาจนถึงปัจจุบัน
         2.2    วัสดุย่อส่วน คือสื่อทีถูกสำเนาย่อส่วนลงบนแผ่นฟิล์มชนิดต่างๆ ทั้งเป็นม้วนหรือเป็นแผ่น เรียงลำดับเนื้อหาตามต้นฉบับ เช่น เอกสารจดหมายเหตุ หนังสือพิมพ์ เอกสารสำคัญ แบบฟอร์ม บทคัดย่อวิทยานิพนธ์ เป็นต้น
         2.3     สื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือสื่อแม่เหล็ก เป็นวัสดุสังเคราะห์เคลือบด้วยสารแม่เหล็ก สามารถบันทึกและแก้ไขข้อมูลได้สะดวกทั้งข้อมูลที่เป็น อะนาล็อก Analog และดิจิตอล Digital เช่น เทปบันทึกเสียง เทปวีดิทัศน์ ฮาร์ดดิสก์ ดิสเก็ตต์ ปัจจุบันสามารถแก้ไขปรับปรุงได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
       2.4     สื่อแสงหรือสื่อออปติก เป็นสื่อที่ได้รับการบันทึก และอ่านข้อมูลด้วยแสงเลเซอร์ เป็นข้อมูลดิจิตอลอ่านโดยทั่วไปจะอ่านได้อย่างเดียว เช่น CD-ROM, VCD, DVD ซึ่งมีความจุมากเป็นพิเศษกว่าสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือสื่อแม่เหล็ก

6. ข้อเท็จจริงของสิ่งต่างๆที่อาจเป็นตัวเลขข้อความรูปภาพเสียงคือ ข้อมูลที่ยังไม่ได้จัดรูปแบบ 
7. ข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลเป็น สารสนเทศ
8. ส่วนสูงของเพื่อนที่ถามจากเพื่อนแต่ละคนเป็น ข้อมูลที่ยังไม่ได้จัดรูปแบบ
9. ผลของการลงทะเบียนเป็น สารสนเทศ
10. กราฟแสดงจำนวนนิสิตในห้องเรียนวิชาวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน Section
วันอังคารเป็น สารสนเทศ

วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ประวัติวงBodyslam

    บอดี้สแลม(Bodyslam) เป็นวงดนตรีร็อกสัญชาติไทยจากกรุงเทพมหานคร ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2545 เป็นวงดนตรีที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย สมาชิกวงที่เป็นที่รู้จักกันดีจากวงนี้คือ นักร้องนำของวง อาทิวราห์ คงมาลัย (ตูน) โดยเพลงส่วนใหญ่ได้อิทธิพลมาจากดนตรีร็อกจากฝั่งสหรัฐอเมริกาในยุคต้นคริสต์ทศวรรษ 1990 ผสมผสานกับดนตรีแนวโปรเกรสซีฟร็อก บอดี้สแลมประสบความสำเร็จกับอัลบั้มชุดแรกของวง ซึ่งมีชื่ออัลบั้มเป็นชื่อเดียวกันกับวง หลังจากนั้นก็ได้ออกจำหน่ายอัลบั้มชุดต่อมา ไดรฟ์ ในปี พ.ศ. 2546 และตามด้วยการออกงานแสดงคอนเสิร์ต
     หลังจากที่ได้เซ็นสัญญากับจีนี่เรคคอร์ดส บอดี้สแลมก็ได้ออกอัลบั้ม บีลีฟ เซฟมายไลฟ์ และอัลบั้ม คราม ตามลำดับ โดยจากผลสำรวจของเอแบคโพล บอดี้สแลมเป็นวงดนตรีที่เป็นที่ชื่นชอบมากที่สุดอันดับ 1 ทั้งในปี พ.ศ. 2552 พ.ศ. 2553 และ พ.ศ. 2555 และอัลบั้มชุดล่าสุดมีชื่อว่า ดัม-มะ-ชา-ติ ออกจำหน่ายในปี พ.ศ. 2557 จากนั้นก็ได้จัดคอนเสิร์ตใหญ่ทั่วประเทศไทยชื่อว่า ปรากฏการณ์ดัมมะชาติ
   ประวัติของวงBodyslam
  ช่วงแรกของวง (2539–2541) บอดี้สแลมเริ่มต้นด้วยวง ละอ่อน ในปี พ.ศ. 2539 วงได้ชนะการประกวดวงดนตรี Hot Wave Music Award และได้ออกจำหน่ายอัลบั้มกับค่ายมิวสิก บั๊กส์ ในชื่อ ละอ่อน ในปี พ.ศ. 2540 ด้วยแนวเพลงป็อปร็อก เพลงหนึ่งในอัลบั้ม "ได้หรือเปล่า" เป็นเพลงที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดของวง ต่อมา ตูน กับ เภา ออกจากวงไป และได้ปั้น(Basher) มาร้องนำ ได้ออกอัลบั้มชุดที่สอง เทพนิยายนายเสนาะ ในปี พ.ศ. 2541 แต่หลังจากนั้นวงก็ได้แยกย้ายกันไปเรียนต่อ
     อัลบั้ม บอดี้สแลม วงกลับมาอีกครั้งประมาณปี พ.ศ. 2545 ด้วยชื่อใหม่ บอดี้สแลม ซึ่งมีเปลี่ยนแนวเพลงไปเป็นร็อกที่หนักหน่วงมากขึ้น ด้วยสมาชิกเพียงสามคนที่เหลืออยู่ ได้แก่ นักร้องนำ ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย มือเบส ปิ๊ด ธนดล ช้างเสวก และมือกีตาร์ เภา รัฐพล พรรณเชษฐ์ วงอธิบายว่า ที่มาของชื่อนี้มาจากชื่อท่าหนึ่งของมวยปล้ำ แต่ถ้าแปลความหมายตรงตัว บอดี้ แปลว่าร่างกาย สแลม คือการทุ่ม เมื่อมารวมกันเป็น บอดี้สแลม ก็จะหมายถึง การทุ่มสุดตัว คือการทำงานเพลงกันเต็มที่แบบทุ่มสุดตัว วงได้ออกจำหน่ายอัลบั้มชุดแรกของวงชื่อว่า บอดี้สแลม ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2545 และได้ประสบความสำเร็จ โดยมีเพลงฮิตอย่าง "งมงาย" "ย้ำ" และ "สักวันฉันจะดีพอ" 
      อัลบั้มไดร์ฟ (Drive) ในปี พ.ศ. 2546 เป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จเท่ากันกับอัลบั้มชุดแรก โดยมีเพลงฮิตอย่าง "ปลายทาง" "ความซื่อสัตย์" "ชีวิตที่ฉันเหลืออยู่" และ "หวั่นไหว" และได้ชนะรางวัลมิวสิกวิดีโอในสาขา "กลุ่มศิลปินที่เป็นที่ชื่นชอบ" ในมิวสิกวิดีโอของเพลง "ปลายทาง"ในวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2547 บอดี้สแลมได้ออกคอนเสิร์ต HOTWAVE LIVE: BODYSLAM MAXIMUM LIVE จัด ณ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตที่ทาง 91.5 Hot Wave จัดให้โดยเป็นคอนเสิร์ตครั้งแรกของวง โดยมีศิลปินรับเชิญคือ ปู แบล็คเฮด, อ๊อฟ บิ๊กแอส, และป๊อด โมเดิร์นด็อก
    อัลบั้ม บีลีฟ(Believe)พ.ศ.2548 หลังจากอัลบั้มที่สอง บอดี้สแลมได้มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย วงได้ออกจากค่ายมิวสิก บั๊กส์และได้เซ็นสัญญากับจีนี่เรคคอร์ดส ในเครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ค่ายเพลงใหญ่ของประเทศไทย ต่อมามือกีตาร์ของวง เภา รัฐพล พรรณเชษฐ์ ได้ออกจากวงบอดี้สแลม และออกอัลบั้มเดี่ยวในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2548 ในอัลบั้มชื่อ Present Perfect สังกัดค่ายสนามหลวง ทำให้บอดี้สแลมเหลือสมาชิกวงอยู่ 4 คน และได้คว้าตัวมือกีตาร์คนใหม่ คือ ยอด ธนชัย ตันตระกูล และออกสตูดิโออัลบั้มชุดที่สามของวง บีลีฟ (Believe) ในปี พ.ศ. 2548 โดยทางวงประสบความสำเร็จอย่างสูง มีเพลงฮิตอย่าง "ขอบฟ้า" "ห้ามใจ" "ความรักทำให้คนตาบอด" "พูดในใจ" "รักก็เป็นอย่างนี้" "ชีวิตเป็นของเรา" "คนที่ถูกรัก" และ "ความเชื่อ" ซึ่งเพลงนี้ต่อมาได้กลายเป็นเพลงสัญลักษณ์ประจำวงบอดี้แสลม
อัลบั้ม เซฟมายไลฟ์ (2550–2551) ในวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2550 บอดี้สแลมได้ออกจำหน่ายสตูดิโออัลบั้มชุดที่สี่ เซฟมายไลฟ์ (Save My life) มีเพลงฮิตอย่าง "แค่หลับตา" "นาฬิกาตาย" "อกหัก" "เสี้ยววินาที" "คนมีตังค์" และ "ยาพิษ" ทางวงเองได้ออกคอนเสิร์ตใหญ่ในกรุงเทพในต้นเดือนตุลาคมปีเดียวกัน ในวันที่ 20 – 21 ตุลาคม พ.ศ. 2550 บอดี้สแลมได้ออกคอนเสิร์ตบอดี้สแลมเซฟมายไลฟ์ ที่อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก โดยมีแขกรับเชิญ ได้แก่ โก้ มิสเตอร์ แซกแมน (Koh Mr.Saxman) ร่วมแสดงในเพลง "นาฬิกาตาย", ปู พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ ร่วมแสดงในเพลง "ความเชื่อ" "แม่", ปนัดดา เรืองวุฒิ ร่วมแสดงในเพลง "แค่หลับตา", แอ๊ด คาราบาว ร่วมแสดงในเพลง "ความเชื่อ" "รักต้องสู้", และทีมเชียร์ลีดเดอร์จากมหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมแสดงในเพลง "ท่านผู้ชม"
อัลบั้ม คราม (2552–2555) ซิงเกิล "คราม" ออกในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2552 พร้อมกับสตูดิโออัลบั้มชุดที่ห้าของวง ออกจำหน่ายในกลางปี พ.ศ. 2553 (หลังจากเลื่อนไปเป็นมิถุนายน พ.ศ. 2553 จากการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ พ.ศ. 2553) อัลบั้มนี้มีเพลงฮิตอย่าง "คราม" "คิดฮอด" "โทน" "แสงสุดท้าย" "ทางกลับบ้าน" "ความรัก" "สติ๊กเกอร์" "เงา" "ปล่อย" และ "เปราะบาง" วงได้ออกแสดงคอนเสิร์ตใหญ่ที่เรียกว่า บอดี้สแลมไลฟ์อินคราม ที่ราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ด้วยผู้ชมมากกว่า 65,000 คน โดยมีศิลปินรับเชิญ ได้แก่ ศิริพร อำไพพงษ์ ในเพลง "คิดฮอด", อุ๋ย บุดด้าเบลส และฟักกลิ้ง ฮีโร่ ในเพลง "สติ๊กเกอร์", และวงบิ๊กแอส
อัลบั้ม ดัม-มะ-ชา-ติ (2556–ปัจจุบัน)สตูดิโออัลบั้มชุดที่หกของวง ดัม-มะ-ชา-ติ(dharmajāti) ในภาษาสันสกฤตหมายถึง "ธรรมชาติ" โดยอัลบั้มนี้จะเน้นไปทางเกี่ยวกับชีวิตและมีแนวเพลงไปทางโพรเกรสซิฟร็อก ออกจำหน่ายในวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2557 มีเพลงดังอย่าง "เรือเล็กควรออกจากฝั่ง" "ปลิดปลิว" "ดัม-มะ-ชา-ติ" "รักอยู่ข้างเธอ" "ชีวิตยังคงสวยงาม" และ "คิดถึง" และมีกำหนดการออกคอนเสิร์ตบอดี้สแลม ปรากฏการณ์ ดัม-มะ-ชา-ติ โดยเป็นการทัวร์คอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งแรกของวง เพื่อสนับสนุนอัลบั้ม โดยเริ่มแสดงตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2557 – 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558และเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 ยุทธนา บุญอ้อม ได้ประกาศยกเลิกทัวร์ บอดี้สแลม ปรากฏการณ์ ดัม-มะ-ชา-ติ ที่เหลือทั้งหมด โดยจัดที่จังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดสุดท้าย ในวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 วงบอดี้แสลมจัดคอนเสิร์ต คอนเสิร์ตบอดี้สแลมสิบสาม เพื่อครบรอบ 13 ปีของทางวง ที่ริมทะเลสาบเมืองทองธานี โดยมีศิลปินรับเชิญ ได้แก่ อัญชลี จงคดีกิจ ร่วมแสดงในเพลง "รักอยู่ข้างเธอ" และ "แค่หลับตา", วงโมเดิร์นด็อก ร่วมแสดงในเพลง "ปล่อย" "คนที่ถูกรัก" และ "ตาสว่าง", วงลาบานูน ร่วมแสดงในเพลง "ตาสว่าง" "ยาม" และ "ปลิดปลิว", อ๊อฟ-กบ-หมู จากวงบิ๊กแอส ร่วมแสดงในเพลง "งมงาย" "ความรักทำให้คนตาบอด" "ย้ำ" และ "อย่างน้อย", ศิริพร อำไพพงษ์ ร่วมแสดงในเพลง "คิดฮอด", รัฐพล พรรณเชษฐ์ ร่วมแสดงในเพลง "สักวันฉันจะดีพอ" และเพลง "บอดี้สแลม", กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ และอุ๋ย บุดด้า เบลส ร่วมแสดงในเพลง "สติ๊กเตอร์"
สมาชิกปัจจุบัน
อาทิวราห์ คงมาลัย (ตูน) – ร้องนำ (พ.ศ. 2545–ปัจจุบัน)
ธนดล ช้างเสวก (ปิ๊ด) – กีตาร์เบส, ร้องประสาน (พ.ศ. 2545–ปัจจุบัน)
ธนชัย ตันตระกูล (ยอด) – กีตาร์นำ (พ.ศ. 2548–ปัจจุบัน)
สุชัฒติ จั่นอี๊ด (ชัช) – กลอง (พ.ศ. 2548–ปัจจุบัน) (แบกอัพ : พ.ศ. 2546–2547)
โอม เปล่งขำ (โอม) – คีย์บอร์ด, ร้องประสาน (พ.ศ. 2553–ปัจจุบัน) (แบกอัพ : พ.ศ. 2550–2553)
อดีตสมาชิก
 รัฐพล พรรณเชษฐ์ (เภา) – กีตาร์นำ (พ.ศ. 2545–2548)
อ้างอิงจาก:https://th.wikipedia.org/wiki/bodyslam

วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ภูกระดึง ขุนเขามหัศจรรย์แห่งเมืองเลย

ภูกระดึง เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 2 ของประเทศไทย ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย เป็นภูเขาหินทรายยอดตัด เป็นที่ราบขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 60ตารางกิโลเมตร มีความสูง 400-1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลางเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของเมืองไทยจุดสูงสุดอยู่ที่บริเวณคอกเมย มีความสูง 1,316 เมตรจากระดับน้ำทะเล
       สภาพทั่วไปของภูกระดึง ประกอบไปด้วยพรรณไม้นานาชนิด พันธุ์สัตว์ป่านานาพันธุ์ หน้าผา ทุ่งหญ้า ลำธาร และน้ำตกอีกทั้งยังเป็นพื้นที่ต้นน้ำของลำน้ำพองซึ่งเป็นลำน้ำสายสำคัญสายหนึ่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้วยความสูงบรรยากาศ และสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดปีบนยอดภูกระดึงโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวอุณหภูมิอาจลดต่ำจนถึง 0 องศาเซลเซียสจึงเป็นแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวปรารถนาและหวังจะเป็นผู้พิชิตยอดภูกระดึงสักครั้งหนึ่งในชีวิต
       สำหรับการเดินทางขึ้นภูกระดึงนั้น ทางอุทยานจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นได้ตั้งแต่เวลา 07.00-14.00 น. ของทุกวัน และหลังจากเวลา 14.00 น. เป็นต้นไป ทางอุทยานจะไม่อนุญาตเพราะระยะทางในการเดินทางขึ้นเขาต้องใช้เวลาในการเดินเท้าประมาณ 4-5 ชั่วโมง ซึ่งจะตรงกับเวลาพลบค่ำในระหว่างทาง ดังนั้นอาจจะทำให้เกิดความยากลำบากอีกทั้งอาจได้รับอันตรายจากสัตว์ป่าที่ออกหากินในเวลากลางคืนอีกด้วย
       อย่างไรก็ตามอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จะเปิดการท่องเที่ยวและพักแรมบนยอดภู ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ถึงวันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปี และจะทำการปิดการท่องเที่ยวและพักแรมบนยอดภูกระดึง ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ถึงวันที่ 30 กันยายนของทุกปีเช่นกัน เพื่อเป็นการฟื้นฟูในช่วงฤดูฝน
จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจบนภูกระดึง
ผานกแอ่น... เป็นลานหินเล็ก ๆ มีสนต้นหนึ่งขึ้นโดดเด่นอยู่ริมหน้าผาเป็นจุดท่องเที่ยวชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สำคัญอยู่ห่างจากที่พักศูนย์วังกวางเพียง 2 กิโลเมตร ในทุกเช้าของหน้าหนาวจะมีนักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปกันมาก และมักจะมีการชิงทำเลดี ๆ เสมอ สมัยนี้ทางไปมักมีช้างอาละวาด ตอนเช้าจะต้องไปพร้อมเจ้าหน้าที่เสมอ ห้ามไปเองเป็นอันขาด นอกจากนั้น หากอากาศดีพอในช่วงเวลาที่เดินเท้าฝ่าความมืดมาชมพระอาทิตย์ขึ้นนั้นเป็นช่วงที่ประจวบเหมาะกับเวลาที่พระจันทร์กำลังจะลับขอบฟ้าด้านตะวันตกนั้นจะได้เห็นภาพสวยงามแปลกตาไปอีกแบบริมทางเดินใกล้ผานกแอ่นเป็นสวนหินมีดอกกุหลาบป่าขึ้นอยู่เป็นดงใหญ่ซึ่งจะบานสะพรั่งเต็มต้นในเดือนมีนาคม-เมษายน และใครที่อยากไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่นควรเตรียมไฟฉายสำหรับใช้ส่องทางไปด้วย
ผาหล่มสัก...ถ้าไม่มาชมพระอาทิตย์ตกที่นี่ก็เหมือนไม่ได้มาเยือนภูกระดึง…หลายคนถึงกับออกปากไว้แบบนั้น ตัวผาหล่มสักอยู่ห่างจากผาแดง 2.5 กิโลเมตรหากเดินมาจากแยกศูนย์โทรคมนาคมกองทัพอากาศ บนเส้นทางน้ำตก แต่ถ้าเดินจากที่พักศูนย์วังกวางจะมีระยะประมาณ 9 กิโลเมตร หากจะมาต้องเตรียมตัวให้ดี เพราะขากลับจะมืดกลางทางอย่างแน่นอน ด้วยลักษณะแผ่นหินแปลกตากับโค้งกิ่งสนที่รองรับกันพอดิบพอดีเช่นนี้นักท่องเที่ยวจึงนิยมจะใช้เป็นจุดชมวิว ดูดวงอาทิตย์ตกดิน และน่าจะถือได้ว่าเป็นภาพที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของอุทยานแห่งชาติภูกระดึง แนะนำสักนิดสำหรับผู้ที่จะไปชมพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสักควรเตรียมเสื้อกันหนาวและไฟฉายสำหรับใช้ส่องทางเวลาเดินกลับที่พัก ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง
ผาหมากดูก...อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว 2.5 กิโลเมตร เป็นผาที่มีลานหินกว้างขวาง เป็นผาสำหรับชมพระอาทิตย์ตกที่ใกล้ที่พักมากที่สุด สามารถชมทิวทัศน์ภูผาจิตในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ในช่วงต้นฤดูฝนจะมีดอกกระเจียวขึ้นเต็มทุ่งตามเส้นทางสู่ผาหมากดูก
น้ำตกวังกวาง...ชื่อก็บอกอยู่แล้ว น้ำตกวังกวางอยู่ใกล้ที่พักศูนย์วังกวางมากที่สุดโดยมีระยะทางห่างแค่ราว 1 กิโลเมตรเท่านั้นเอง ห้วยเล็ก ๆ ที่โอบล้อมที่พักอีกด้านจะไหลลงน้ำตกที่นี่ วังกวางเป็นน้ำตกเล็ก ๆ ชั้นที่สูงสุดจะสูงประมาณ 7 เมตร ด้านข้างของน้ำตกมีทางแคบ ๆ สำหรับปีนลงไปทีละคนจะพบหลืบหินมีลักษณะคล้ายถ้ำใต้น้ำตก น้ำตกวังกวางจะมีความสวยงามมากในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-ตุลาคม บริเวณนี้จะมีทากชุมเพราะเป็นด่านช้าง หรือทางช้างเดิน ส่วนในฤดูท่องเที่ยวซึ่งเป็นฤดูแล้งปริมาณน้ำค่อนข้างน้อย นักท่องเที่ยวสามารถแวะชมได้ง่ายใกล้ที่พัก
น้ำตกถ้ำสอเหนือ...อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง 4.8 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดกลาง สูง 10 เมตร น้ำไหลมาจากผาเป็นม่านน้ำตก บริเวณเหนือน้ำตกมีดงกุหลาบแดง ซึ่งในช่วงฤดูร้อนจะผลิดอกสร้างสีสันให้กับบริเวณนี้ให้สวยงามยิ่งขึ้น
น้ำตกเพ็ญพบใหม่...เกิดจากลำธารวังกวาง น้ำตกผ่านผาหินรูปโค้ง ในหน้าหนาวใบเมเปิลที่อยู่บริเวณริมน้ำตกจะร่วงหล่นลอยไปตามผิวน้ำ ยามแดดสาดส่องผ่านลงมาจะเป็นสีแดงจัดตัดกับสีเขียวขจีของตะไคร่น้ำตามโขดหิน ลำธารวังกวางเป็นต้นกำเนิดน้ำตกที่มีชื่ออีกแห่งหนึ่ง คือ น้ำตกโผนพบ ซึ่งตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่ โผน กิ่งเพชรนักชกแชมเปี้ยนโลกคนแรกของชาวไทยในฐานะเป็นผู้ค้นพบคนแรกเมื่อคราวที่ขึ้นไปซ้อมมวยให้ชินกับอากาศหนาว ก่อนเดินทางไปชกในต่างประเทศ
สระอโนดาต... อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว 2.7 กิโลเมตรเป็นสระน้ำขนาดไม่ใหญ่นักที่มีต้นสนขึ้นเป็นแนวแน่นขนัดใกล้กันยังมีลานกินรีซึ่งเป็นสวนหินธรรมชาติที่อุดมไปด้วยพรรณไม้ ทั้งพวกกินแมลงอย่างดุสิตา หยาดน้ำค้าง หรือเฟิร์น เช่น กระปรอกสิงห์บนหินยังมีไลเคนขึ้นอยู่เต็มไปหมดด้วย
      นอกจากที่เอ่ยมาแล้ว อุทยานแห่งชาติภูกระดึงยังมีสถานที่น่าสนใจอีกหลายแห่งเช่น น้ำตกรัตนา น้ำตกถ้ำสอเหนือ น้ำตกพระองค์ น้ำตกธารสวรรค์ ผาแดงผาส่องโลก ผานาน้อย ผาจำศีล สวนสีดา ลานกินรี ลานวัดพระแก้วและอีกมากมายบรรยายกันไม่หมด ดังนั้นใครที่ชอบเดินป่า ปีนเขาและสัมผัสธรรมชาติแบบถึงเนื้อถึงตัว ภูกระดึง...คงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คุณจะพลาดไม่ได้ค่ะ

ที่มา:http://travel.kapook.com/view477.html